วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

หุ่นขี้ผึ้งบ้านไทย 4 ภาค



ชมหุ่นขี้ผึ้ง บ้านไทย 4 ภาค ที่อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม ราชบุรี


หลังจากที่นาย folk พาเที่ยว ตะลอนๆไปน้ำตก ไปป่า หลายคนเริ่มมีคำถามว่าไม่มีทริปแบบเดินสบายๆ จูงลูกจูงหลานไปใกล้ๆบ้างเหรอ วันนี้เราจัดให้ครับ ผมจะพาไปชม อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม
อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม เป็นที่เที่ยวอีกที่หนึ่ง ที่ให้ทั้งความรู้ เพลิดเพลิน ได้ทราบประวัติความเป็นมาของบุคคลสำคัญ บ้านไทยทรงโบราณ ภายในอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยามร่มรื่นไปด้วยด้นไม้ใหญ่ เดินชมสบายๆ ไม่ร้อน บริเวณจุดต่างๆมีคำบรรยายสลับภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ จะพาชาวต่างชาติมาก็ไม่ต้องมาแปลให้เมื่อยเลย หรือจะพาเด็กมาก็ได้ความรู้กลับไป คิดว่าคงอยากชมกันแล้วใช่ไหม ตามผมมาครับ
เริ่มกันที่ทางเข้าก่อนเลย ค่าผ่านประตูสำหรับผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท พระสงฆ์ 20 บาท สำหรับการเข้าชมเป็นหมู่คณะจะมีไกด์คอยบรรยายให้ความรู้ระหว่างทางด้วยครับ หรือจะแอบเนียนเดินตามกลุ่มเด็กๆที่มาทัศนาจรก็ได้ครับ
เมื่อเดินเข้ามาจะเจออาคารเชิดชูเกียรติเป็นอาคารปรับอากาศมี 2 ชั้นแต่เปิดให้ชมเพียงชั้นล่าง ภายในอาคารจะมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสบุคคลสำคัญ พร้อมประวัติมากมาย ในแต่ละห้องจะจำลองเป็นห้องทำงานของแต่ละท่าน ทำได้เหมือนมากเลยครับ
ศ.มล.ปิ่น มาลากุล (ล่างซ้าย) เป็นผู้มีมีความสำคัญกับการศึกษาในประเทศไทยเป็นอย่างมาก และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกว่าเป็น นักการศึกษาดีเด่นของโลก
ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ (ล่างขวา) เป็นบุคคลซึ่งเคยดำรงตำแหน่งมากมายได้แก่ ตำแหน่งประธานศาลฎีกา, คณบดีคณะนิติศาสตร์ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, รองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ, ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็น ประธานองคมนตรี

ศ.ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ (ล่างซ้าย) เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยและเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาชิกขบวนการเสรีไทย
สืบ นาคะเสถียร (ล่างขวา) ผู้พิทักษ์ป่าห้วยขาแข้ง และผลักดันให้ห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลก

แม่ชี เทเรซ่า นักต่อสู้เพื่อคนยากไร้ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
ประธานาธิบดี โฮจิมินต์ วีรบุรุษของชาวเวียดนาม (ล่างขวา)

เหมาเจ๋อตุงและเติ้งเสี่ยวผิง 2 ผู้นำผู้เปลี่ยนแปลงจีน

หลังจากดูอยู่เพลินๆ ก็หมดแล้วละครับ ต่อไปจะพาไปข้างนอกอาคารเชิดชูเกียรติไปยังลานพระ 3 สมัย
ลานพระ 3 สมัย ผลงานประติมากรรมพระพุทธรูป 3 สมัยหล่อด้วยทองเหลืองและรมดำ เดินไปเรื่อยๆจะเจอกับถ้ำชาดก


ถ้ำชาดก ถ้ำจำลองจัดแสดง แสง เสียง เกี่ยวกับพระชาติสุดท้ายของพระเวสสันดร เรื่องการให้ทานอย่างไม่มีเงื่อนไข ตอนชูชกขอสองกุมาร โดยเรื่องราวจะแสดงถึงคติธรรม คำสอนเพื่อให้มนุษย์รู้จักความพอดีในการดำเนินชีวิต

มีตอนชูชกท้องแตกตายด้วย ดูแล้วน่ากลัวเหมือนกัน ภาพนี้ผมไม่ลงดีกว่าไว้ให้ไปดูกันเอง ออกจากถ้ำชาดกก็เริ่มเหนื่อยแล้ว อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยามนี้ใหญ่เหมือนกันแฮะ แวะทานน้ำที่บ้านน้ำสมุนไพร แล้วไปกันต่อครับ อันต่อไปที่ผมจะพาไปเป็นบ้านไทย 4 ภาค
บ้านไทย 4 ภาค เป็นการจำลองบ้านไทยที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม จากทั้ง 4 ภาค ได้แก่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสานและภาคใต้ ในแต่ละบ้านจะสะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี เช่นในบ้านภาคใต้จะมีชาย 2 คน (หุ่นขี้ผึ้ง) กำลังฉลุหนังตะลุงอยู่ ภายในบ้านจะมีหุ่นขี้ผึ้งอยู่ด้วยครับ บอกไว้ก่อนเผื่อเข้าไปแล้วตกใจ

บ้ายไทยภาคกลาง (บน)

บ้ายไทยภาคเหนือ (ซ้าย) บ้ายไทยภาคใต้ (ขวา)
ยังไม่หมดครับต่อไปจะเป็นกุฎิพระสงฆ์ เป็นหมู่เรือนไทยที่ประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งพระสุปัฏิปัณโณ พระสงฆ์ผู้เป็นกองทัพธรรมในพระพุทธศาสนา

หลังจากที่เดินมาถึงตรงนี้ก็เริ่มเหนื่อยและหิวกัน ไปหาของกินกันดีกว่า เมื่อเดินวนไปตามทางจะมาเจอกับบ้านกาแฟสด บรรยากาศร่มรื่นในร้านไม้ ลมเย็น กับกาแฟซักแก้ว เหมาะกับการนั่งคลายเหนื่อยจริงๆ กาแฟในรูปล่างมุมขวาอันนี้ของผมเอง ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ขอถ่ายรูปให้ชมกันก่อน

เมื่อได้นั่งพักจนหายเหนื่อย ก็ไปแวะซื้อของฝากกันที่ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก เป็นอันจบทริป สุข สนุก ได้ความรู้กลับไป ถ้าใครยังอยากเที่ยวต่อ แนะนำให้ไปตลาดน้ำยามเย็นที่อัมพวา หรือจะไปค้างโฮมสเตย์ดูหิ่งห้อยก็ไม่เลวครับ
การเดินทางโดยรถยนต์
ใช้ถนนเพชรเกษมขับมุ่งหน้าไป จ. ราชบุรี เมื่อถึงสี่แยกบางแพให้เลี้ยวซ้าย ประมาณ 1 กิโลเมตรจากแยกบางแพจะเห็นอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยามอยู่ทางขวามือให้กลับรถข้างหน้า ภายในมีที่จอดรถกว้างขวาง มีที่จอดรถบัส